ตอนที่ ๔ ศรีสุวรรณพบนางเกษรา
นางแก้วเกษรา
เมื่อถึงคราวจะได้คู่ได้สุบินนิมิต
เมื่อตอนใกล้รุ่งจึงเรียกสี่พี่เลี้ยงมาเล่าความฝันให้ฟังว่า
ฉันฝันว่าวาสุกรีอันเกรียงไกร เข้ามาในแท่นสุวรรณอันบรรจง
เกี่ยวกระหวัดรัดรอบอุราน้อง ฉันร่ำร้องอยู่บนเตียงจนเสียงหลง
ฯลฯ
พี่เลี้ยงได้ฟังก็รู้ความ
แต่จะบอกไปตรง ๆ ก็กลัวจะโกรธ จึงให้อ่านตำราฝัน ทายงูว่าจะได้คู่
ราชธิดาได้ฟังก็เกิดเขินอาย ต่อว่าพี่เลี้ยงที่ให้อ่านตำราฝัน แล้วไม่ยอมพูดด้วย
พี่เลี้ยงทั้งสี่ได้ออกไปพบสามมาณพกับราชกุมาร
ดูแลทุกข์สุขเมื่ออยู่กับคนเฝ้าสวนสองคนตายาย แล้วกลับมารอเวลาจนเย็น
จึงไปชวนราชธิดาไปชมสวนในเช้าวันรุ่งขึ้น
ฝ่ายพระนุชบุตรีศรีสวัสดิ์ จิตกำหนัดนึกคะนึงถึงบุปผา
บรรทมตื่นแต่งองค์อลงการ์ ผลัดภูษาจัดจีบกลีบประจง
ทรงสะพักสไบกรองลายทองริ้ว สัมผัสผิวพระนลาฏวาดขนง
สร้อยสังวาลบานพับประดับองค์ ดังอนงค์นางสวรรค์ชั้นโสฬส
ฯลฯ
แต่งองค์เสร็จแล้วจึงไปทูลลาพระบิดาไปเล่นอุทยาน
แล้วจึงพากันไปอุทยาน
ศรีสุวรรณกับสามพราหมณ์พี่เลี้ยงเห็นนางในนับร้อยมาเที่ยวอุทยาน
จึงชวนกันมาที่สวนขวัญตามที่ได้นัดแนะพี่เลี้ยงทั้งสี่นางเอาไว้
ได้เห็นพระธิดาเดินทางมาท่ามกลางสี่พี่เลี้ยง
ก็ตกตะลึงในความงามของพระธิดาที่เพิ่งรุ่นสาวอายุสักสิบสี่ปี ฝ่ายศรีสุวรรณนั้น
ชำเลืองเห็นพระธิดาพะงางาม ให้มีความพิสวาสจะขาดใจ
ด้วยคู่สร้างปางหลังแล้วอย่างนั้น พอเห็นกันก็ให้คิดพิสมัย
ฯลฯ
ส่วนพระธิดานั้น เมื่อเห็นพราหมณ์น้อย
พอเนตรน้องต้องเนตรหน่อกษัตริย์ หวนประหวัดหวาดจิตคิดสงสัย
องค์ระทวยขวยเขินสะเทิ้นใจ แฝงต้นไม้เมียงชม้อยคอยชายตา
ฯลฯ
ทั้งศรีสุวรรณและราชธิดา
เมื่อได้พบเห็นกันดังกล่าวก็เกิดการอาลัยอาวรณ์ซึ่งกันและกัน
ความอาลัยใจวาบให้ปลาบปลื้ม ตะลึงลืมหลงแลชะแง้หา
พระบุตรีลีลาศชำเลืองมา ไม่เห็นหน้าพราหมณ์น้อยละห้อยใจ
พระพักตร์ผ่องหมองเหมือนเดือนพยับ ด้วยจิตจับถึงมิตรพิสมัย
ลืมบรรดาข้าหลวงพวงดอกไม้ ถอนฤทัยทุกข์ถึงคะนึงครวญ
ฯลฯ
พระกอดเข่าเศร้าสร้อยละห้อยหวน จนหลงครวญขับลำเป็นคำหวาน
โอ้เจ้าแก้วเกษรายุพาพาล ไม่สงสารพี่บ้างหรืออย่างไร
เมื่อผันแปรแลพบก็หลบพักตร์ จะเห็นรักหรือไม่เห็นเป็นไฉน
บุราณว่ามิตรจิตก็มิตรใจ จะกระไรอยู่มั่งยังไม่เคย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น